ประตูฝรั่งเศสเป็นประตูบานคู่ชนิดหนึ่งที่มีบานกระจก โดยทั่วไปจะคั่นด้วยกรอบไม้หรือมูติน พวกเขาเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเพิ่มความสง่างามและประโยชน์ใช้สอยให้กับบ้านและอาคาร มอบโซลูชันที่ดึงดูดสายตาและใช้งานได้จริงสำหรับการเข้าถึงพื้นที่กลางแจ้ง เช่น ลานบ้านและสวน
ต้นกำเนิดของประตูฝรั่งเศสสามารถย้อนไปถึงกลางศตวรรษที่-17ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในฝรั่งเศส ในช่วงเวลานี้ ความนิยมของหน้าต่างและประตูบานใหญ่ที่มีบานกระจกเริ่มเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่ภายในและเชื่อมต่อกับภายนอก
การออกแบบประตูฝรั่งเศสยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงศตวรรษที่ 18 เนื่องจากประตูเหล่านี้กลายเป็นลักษณะที่ทันสมัยในบ้านทั้งแบบฝรั่งเศสและอังกฤษ มักใช้ในห้องรับประทานอาหารและห้องบันเทิงที่เป็นทางการ เช่นเดียวกับการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในกับเฉลียงกลางแจ้งและสวน
ประตูฝรั่งเศสยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในศตวรรษที่ 19 และ 20 เนื่องจากอุตสาหกรรมทำให้การผลิตกระจกและไม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ประตูฝรั่งเศสมีจำหน่ายมากขึ้นและมีราคาย่อมเยา ในสหรัฐอเมริกา ประตูแบบฝรั่งเศสกลายเป็นลักษณะที่นิยมในบ้านยุคอาณานิคมและยุควิกตอเรียน
ปัจจุบัน ประตูฝรั่งเศสยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับบ้านและอาคาร โดยนำเสนอรูปแบบและตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย สามารถทำจากวัสดุได้หลากหลาย ทั้งไม้ เหล็ก หรืออลูมิเนียม และสามารถออกแบบด้วยตัวเลือกกระจกที่หลากหลาย เช่น กระจกใส กระจกฝ้า หรือกระจกตกแต่ง
นอกจากความมีสไตล์สำหรับบ้านหรืออาคารแล้ว ประตูฝรั่งเศสยังมีประโยชน์หลายประการ ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่ภายใน เพิ่มความสว่างโดยรวม และลดความจำเป็นในการใช้แสงประดิษฐ์ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่กลางแจ้ง ทำให้สามารถใช้ชีวิตในร่มและกลางแจ้งได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับนอกชานหรือดาดฟ้า
โดยสรุป ประตูฝรั่งเศสมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ของฝรั่งเศส และได้กลายเป็นคุณสมบัติยอดนิยมสำหรับทั้งอาคารที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ให้ทั้งความดึงดูดสายตาและประโยชน์ใช้สอย ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อพื้นที่อยู่อาศัยในร่มและกลางแจ้งได้อย่างลงตัว